วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

"บ้านบางเขน" มีอะไร ??? ใครอยากไปตามมาค่ะ

ทริปในเมืองกรุง

สวัสดี "บ้านบางเขน" : 05.02.60


อาทิตย์แรกของเดือนแห่งความรักไปไหนกันดีหว่าา??? วันนี้วันอาทิตย์แล้ววันหยุดของคุณผู้ชายซะที เรานี่ทั้งอาทิตย์นับวันรอวันนี้รอเวลาหาเรื่องเที่ยวว่าแต่วันนี้ไปไหนกันดีมีเวลาแค่ช่วงบ่ายเท่านั้นโจทย์ยากอีกแระ หาๆๆอ่านรีวิววนไปข่ะ สรุปได้สถานที่เที่ยวเปิดใหม่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่30/1/60 เค้าว่ากันว่าเป็นที่เที่ยวชิคๆแนววินเทจ มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และมุมถ่ายรูปสวยๆอีกต่างหาก และที่ดีที่สุดคือใกล้บ้านสุดๆ แถมอะไรรู้มั้ยเธอ!! ร้านกาฟที่นี่เปิด 24 ชั่วโมงเลยน๊า เอาเป็นว่าไปเดินเที่ยว
ไปเดินกิน ไปเดินถ่ายรูปที่นี่ละกันเนอะเค้าเรียกที่นี่ว่า

"บ้านบางเขน"

เห็นป้ายนี้ด้านหน้าสดงว่าเรามาถึงแล้วค่ะ "บ้านบางเขน"

"บ้านบางเขน" เราจะมาเที่ยวที่นี่ได้ยังไง ง่ายมากค่ะ ที่นี่อยู่ตรงข้ามกรมทหารราบที่11 อยู่ติดกับร้านอาหารบัวนะจ๊ะ หรือปักหมุด GPS ว่า "บ้านบางเขน"แล้วกดนำทางมาได้เลยจร้าไม่หลงแน่นอน
(ถ้ามาเที่ยวช่วงนี้ต้องเผื่อเวลาหน่อยเนอะเพราะถนนที่มาเที่ยวบ้านบางเขน ตอนนี้เค้าก่อสร้างรถไฟฟ้ามาหานะเธอกันอยู่ 555+ รถค่อนข้างติดเลยทีเดียวค่อยๆวิ่งกระดึบกระดึบได้แค่2เลนเท่านั้น แต่คิดจะเที่ยวเราอย่าหวั่นกับอุปสรรคแค่นี้เนอะ^^)


ระหว่างทางที่มากระดึบ กระดึบมา มีงานก่อสร้างตลอดแนว

สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาสามารถนำมาจอดที่บริเวณบ้านบางเขนได้เลยนะค่ะ จอดฟรีค่ะ แต่ที่จอดรถมีไม่มาก ถ้าไม่มีที่จอดรถจริงๆสามารถจอดรถได้ที่ร้านอาหารบัว โดยเสียค่าจอดรถที่คันละ 50 บาท แต่ๆๆถ้ากลัวไม่มีที่จอดรถให้เลี้ยวเข้าจอดที่ร้านอาหารบัวเลยนะค่ะ เพราะจะอยู่ถึงก่อนบ้านบางเขนเพราะถ้าที่บ้านบางเขนไม่มีที่จอดรถต้องวนรถออกและกลับรถยาวเลยนะค่ะ แถมช่วงนี้ติดงานก่อสร้างรถติดอีกต่างหากตัดใจเสียไปค่ะ 50 บาท ซื้อเวลากันไปเนอะ 

เสียเงินค่าจอดรถเรียบร้อยค่ะ 50 บาท 

บ้านบางเขนมีอะไรทำไมคนถึงมากัน วันนี้ได้มีโอกาสมาแล้วตามกันมาเลยเนอะ ที่นี่จะแบ่งเป็นโซนๆ เริ่มจากโซนด้านหน้าสุดเป็นโซนอาหาร มีร้านอาหารให้เราเลือกอยู่หลายร้านเหมือนกัน อาทิเช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 17 บาท, ขนมเบื้องญวน, ก๋วยเตี๋ยวหลอด, ขนมปังสังขยาป้านงค์, มหานครชาชัก , ส้มตำ-ไก่ย่าง เอาไปแค่นี้ละกันเนอะที่พอจำได้ แต่ก่อนจะไปซื้อต้องไปแลกบัตรเพื่อซื้ออาหารเนอะ เหมือนเราไปกินตามห้างอ่ะ ด้วยความที่วันนี้วันอาทิตย์คนเยอะมาก ที่นั่งกินก็ไม่มีเราเลยไม่ได้กินเลยบอกไม่ได้ว่าร้านไหนอร่อย ได้แต่เก็บภาพบรรยากาศมาฝากเนอะ แต่ถ้ามีโอกาสไปอีกในวันธรรมดาที่คนไม่หนาแน่นอย่างวันนี้ ร้านไหนดีร้านไหนเด็ดจะกลับมาเล่าสู่กันฟังเนอะ


ร้านอาหารที่มีให้บริการบริเณบ้านบางเขน

ถัดมาจากร้านอาหารจะเป็นร้านขายของที่ระลึกพวกแผ่นป้ายงานสังกะสี ตุ๊กตาหมี โมเดลรถเวสป้า ขวดแก้วใส่น้ำ และของกระจุกกระจิกต่างๆ ซึ่งความสมบูรณ์ของร้านที่ทำการเปิดขายตอนนี้ก็เปิดไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ น่าจะต้องใช้เวลาในการเตรียมอีกสักระยะ





โซนถัดมาเป็นโซนของพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอนนี้เปิดให้เข้าชมได้ก็มี

- บ้านพ่อหลวง

ที่นี่เก็บรวบรวมของต่างๆของพ่อหลวงของเราเช่น รูปถ่าย ธนบัตร เหรียญที่ระลึก ของที่ระลึกต่างๆที่เกี่ยวกับในหลวงของเรา  ซึ่งเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจกับเรามาก บางอย่างเราไม่เคยเห็นเราก็มาหาดูได้ที่นี่เนอะ




-พิพิธภัณฑ์COCA-COLA

ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 30บาทนะจ๊ะ จ่ายแล้วจะได้โค้ก1ขวดและเข้าชมข้างในได้ ด้วยความที่วันนี้คนเยอะและผู้ชายบอกไม่อยากเข้าเราเลยแค่เดินผ่านแต่ข้างในที่เรามองจากด้านนอกก็จะโชว์พวกขวดบรรจุภัณฑ์ที่ใสเครื่องดื่มCOCA-COLA ตั้งแต่ขวดแรกและให้เห็นวิวัฒนาการของการเปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบัน





-พิพิธภัณฑ์ของเก่า

จุดนี้จะมีของเก่าของร้านต่างๆในอตีต เช่นร้านขายของชำ / ร้านขายยา / ร้านตัดผม / โรงเรียนจำลอง และอื่นๆ โดยแบ่งเป็นห้องๆ ส่วนใหญ่มีแต่ของเก่าๆที่บางอย่างเราเคยเห็นบางอย่างที่เราไม่เคยเห็นให้เราได้ดูและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ จุดนี้มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก













อีกโซนที่คนเยอะมากเลยจริงๆ คือร้านกาแฟที่เปิด 24 ชั่วโมง ร้านใหญ่เลยทีเดียว แต่วันนี้ที่นั่งไม่มีคนต่อคิวก็เยอะมากค่ะ เราเลยขอบายเลยยอมจริงๆ อะไรที่เปิดใหม่กับคนไทยเนอะฟีเวอร์กันซะ ตรงร้านกาแฟด้านหน้ามีมุมถ่ายรูปด้วยนะ เป็นภาพวาดฝาผนังก็เป็นจุดขายได้เลยแหละ ก่อนคนจะเข้าร้านหรือออกจากร้านกาแฟก็แวะถ่ายกันแทบจะทุกคนเลยทีเดียว


รูปภายในร้านกาฟ เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะคนเยอะมาก ไม่ดราม่ากันน๊า
(เครดิต :https://www.facebook.com/baanbangkhen )


ภาพวาดบริเวณหน้าร้านกาแฟ


ภาพวาดบริเวณหน้าร้านกาแฟ



ส่วนบริเวณอื่นรอบๆก็จะมีภาพวาดตามกำแพงที่เราสามาถถ่ายรูปได้ มีหลายจุดเลยทีเดียวแหละ ถ้าวันนี้คนไม่เยอะจะดีมากแต่วันนี้เยอะจริงๆแถมอากาศร้อนมากเรายอมแพ้เลย แต่เราจะต้องหาเวลาไปเก็บรายละเอียดอีกครั้งแน่นอนแต่คงต้องรอให้มันเปิดสมบูรณ์ก่อนอ่ะนะ เพราะตอนนี้ความพร้อมจากที่เราดูก็ประมาณ 60-70% เองเพราะมีหลายร้านหลายจุดยังไม่เปิด


ภาพวาดบริเวณรอบๆบ้านบางเขน


ภาพวาดบริเวณรอบๆบ้านบางเขน

โซนหลังสุดที่ยังไม่เปิดคือโซนที่ไว้ใช้เป็นห้องสมุดอ่านหนังสือเราเข้าไปแล้ว คือถ้าเปิดสมบูรณ์แบบ
เราคิดว่าดีเลยทีเดียวแหละ บรรยากาศน่านั่งอ่านหนังสือมาก หรือขนงานมาทำนั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนก็ดีไปอีก แต่คงต้องรอเวลาให้ทางบ้านบางเขนเปิดให้เข้าใช้บริการอย่างเป็นทางการก่อนเนอะ เราคิดว่าคงได้กลับไปอีกรอบแน่นอน


รูปภายในโซนห้องสมุดที่ยังไม่เปิด  เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะหามุมถ่าย ไม่ดราม่ากันน๊า
(เครดิต :https://www.facebook.com/baanbangkhen )


รูปนี้เราไปนั่งในโซนห้องสมุดแล้วถ่ายเข้ามา

สุดท้าย...ท้ายสุด สำหรับทริปสั้นๆ3-4ชั่วโมงในวันนี้กับการเดินชิวๆ ชมชิวๆ ถ่ายรูปชิวๆ เราก็ถือว่า
โอเครนะถึงแม้ว่าสถานที่ที่บ้านบางเขนยังเปิดให้บริการไม่ครบ 100% ก็ตาม แต่ก็ติดที่วันนี้คนเยอะมาก อากาศร้อน ทำให้บางทีเรารู้สึกว่าวุ่นวายเกิน แต่ก็นะวันหยุดนิหน่าแถมว่าสถานที่เพิ่งเปิดตัวไปแค่อาทิตย์เดียวอะไรก็ฟีเวอร์แหละ แต่ก็รับได้แหละบ่นๆไปงั้นเองค่ได้ออกเที่ยก็พอใจเราแระ แต่ครั้งหน้าจะกลับไปใหม่อย่างแน่นอนรอให้ทุกโซนเปิดครบเต็ม 100% ก่อนแล้วกันเนอะจะเอาภาพและข้อมูลรีวิวมาฝากแบบครบครันเลยทีเดียว 

ถ้าใครอยากเที่ยวในกรุงเทพ มีมุมถ่ายรูปชิคๆ ชิวๆ แนววินเทจเก๋ๆ ก็มากันได้เนอะ "บ้านบางเขน" อาจตอบโจทย์ของใครหลายๆคนก็ได้ ส่วนตัวเราชอบนะแล้วจะแวะไปอีก^^ 

ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านหรือฟังเราบ่นก็ไม่รูเนอะหวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่สนใจไม่มากก็น้อยน๊า 

สำหรับทริปนี้ขอบคุณคนข้างๆที่ไปด้วยเป็นทั้งคนขับรถ ตากล้อง เป็นทุกอย่างจริงๆ
...แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าน๊า... เลิฟยูว์ชูสามนิ้ว^^




วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ทริปแรกของปี เรื่องเล่าครั้งแรกในบล็อก

มาแว๊ว ทริปแรกของปี60 "นครนายกทริป"วันเดียวก็เที่ยวได้

22.01.60

ว่าด้วยเรื่องเวลาว่างในการเที่ยว ตัวเราเองมีเวลาว่างตลอดแต่คนที่ไปด้วยนี่สิเค้ามีเวลาว่างแค่ 1 วันเท่านั้น โจทย์มีมาอย่างนี้ ทริปที่เราเลือกก็ใกล้ๆกรุงเทพเลยละกานเนอะใช้เวลาไม่นาน นั่งๆอ่านๆหาๆเที่ยวไหนดีหว่า สรุปว่าเราได้จังหวัดที่ไปแล้วก็คือ "นครนายก"นั่นเอง เป็นจังหวัดที่เรายังไม่เคยไปเที่ยวอย่างจริงๆจังเพียงแค่ขับรถผ่านเท่านั้นเอง ว่าแล้วหาข้อมูลเดินทางแล้วออกไปเที่ยวกันดีกว่า go go go


ทริปนี่เราออกเดินทางโดยรถส่วนตัวกันเนอะ เวลาออกเดินทาง 10.00 น. เราจะไปไหนกันก่อนดีหว่า
เอาง่ายๆเลยนะปักหมุดเซิร์ทจาก GPS เลยจร้าที่ๆเราเลือกไปมีอยู่ 4 ที่ด้วยกัน ตามมากันเลย


1. อุโมงค์ป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม
การเดินทางมาเราใช้เส้นทางกรุงเทพ ไปอำเภอบ้านนา แต่วัดจะอยู่ถึงก่อนนะจ๊ะ ปักหมุดGPSมาโล้ดดด วันที่ไปเป็นวันอาทิตย์พอดีโชคดีมากที่คนไม่เยอะเท่าไหร่ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยเลยทีเดียว แนะนำมานะค่ะที่นี่ ร่มรื่นอากาศไม่ร้อน และยังสามารถไหว้พระทำบุญได้ด้วย


อุโมงค์ป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม

2. อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก
งานไหว้พระขอพรก็มีนะค่ะทริปนี้ วิธีไปจากอุโมงค์ป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม เราต้องกลับรถมุ่งหน้าไปทางอ.บ้านนาเลยจร้า (หรือเอาง่ายๆปักหมุดขับตาม GPSเลยคร๊า ง๊ายง่ายเนอะ) วันที่ไปคนเยอะมากๆ มีนักเรียนมาทัศนศึกษาอีก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยง่า ด้วยความที่อากาศก็ร้อนต่างหากไหว้เสร็จก็รีบไปยังจุดหมายต่อไปเลยละกัน แหะๆ


อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก
รูปจากนี้จากเครดิต google นะจ๊ะ (งดดราม่าเนอะ)

PS. บริเวณอุทยานพระพิฆเนศ นครนายก ก็มีของฝากพวกเผือกทอด มันทอด น้ำพริก แบบแปรรูปเอาไว้เป็นของฝากได้ แต่พอดีเราไม่รู้จะเอาไปฝากใครเลยเดินผ่านเฉยๆ 


3.จุดชมวิวเขาหล่น
จากอุทยานพระพิฆเนศ ขับไปไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงแล้วจร้า จุดชมวิวเขาหล่น ที่นี่เป็นจุดที่เค้ามาถ่ายทำมิวสิควีดีโอหลายเพลงเลยน๊า ตอนที่เราไปถึงก็บ่าย2กว่าๆ ถ้าถามว่าร้อนมั้ย อยากบอกว่าร้อนมาก 555++ แดดแรงสุด แต่มาแล้วเนอะขาเที่ยวอย่างเราก็ต้องเที่ยวให้สุดสิ รออาไร บุกเข้าไปในพงหญ้า ดงดอกหญ้า ถ่ายภาพวนไปข่ะ ปีนขึ้นหิน ตรงหน้าผาบ้าง ถ่ายๆๆไปจนตากล้องร้อนและรำคาญเลยเลิกถ่าย แต่วิวจุดนี้ยอมเลยจริงๆ คือมันสวยมากอ่ะ คุ้มค่าที่ขับรถมา

>>ทริกในการกดหาจุดชมวิวเขาหล่น<<
ถ้าเราเซิร์ทว่าเขาหล่น หรือจุดชมวิวเขาหล่นจะไม่มีอยู่ไหนแผนที่นะจ๊ะ ในเราทำการปักหมุด GPS มาที่ "เขาหล่นพาราไดซ์" แต่ๆเราไม่ได้ไปที่รีสอร์ทเค้าน๊า พอเราเลี้ยวเข้ามาจากปากทางจะมีทางแยกไปรีสอร์ทฝั่งขวา แต่เราขับรถขึ้นมาตรงทางแยกฝั่งซ้ายเลยน๊ะจ๊ะ แล้วขับตรงขึ้นมาเลยตรงไปตามป้ายที่เขียนว่า "จุดชมวิวเขาหล่น" แค่นี้เราก็ถึงจุดหมายของเราแว๊ว 😁😁😁



จุดชมวิวเขาหล่น


4.เขื่อนขุนด่านปราการชล

จากจุดชมวิวเขาหล่นขับรถออกมาถนนใหญ่แล้วเราเลี้ยวซ้ายเลยจร้า มุ่งหน้าตามป้ายไปสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล ที่นี่มีที่เที่ยว 2 จุดคือ ด่านล่างจะมีร้านอาหาร และจุดที่ไว้สำหรับในนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและมีกิจกรรมทางน้ำ ส่วนจุดที่ 2 เราต้องขับรถขึ้นไปด้านบนเป็นจุดชมวิวของเขื่อนขุนด่านปราการชล เราได้ทำการเลือกแล้วว้าเราจะเที่ยวในจุดที่ 2 (เนื่องจากไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนเล่นอาไรเลยจร้า ได้แต่มองวิวชมวิวไปตามระเบียบ) ขับรถขึ้นมามีที่จอดรถเยอะอยู่ และนักท่องเที่ยวก็เยอเช่นกัน ด้านบนจะมีกิจกรรมล่องเรือชมเขื่อน หรือนั่งรถรางเพื่อฟังคำอธิบายความรู้ต่างๆเกี่ยวกับโครงการของ เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของในหลวงของเรา ในวันที่ไปคนเยอะมากไม่ยากจะต่อคิว (กิจกรรมมีค่าธรรมเนียมแต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพราะลืมถ่ายรูปมา) เราเลยเดินเที่ยวรอบๆ และเก็บภาพความประทับใจไว้แค่นั้น วิวที่นี่สวยอยู่นะ ถ้ามาช่วงเย็นๆแดดร่มๆน่าจะดีกว่านี้


จุดชมวิวเขื่อนขุนด่านปราการชล

หลังจากนั้นก็ถึงเวลากินแล้วสินะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราไปแวะกินข้าวที่ร้าน "ตำหลาย" อาหารอีสานจัดว่าเด็ด อร่อยเลยทีเดียว มื้อนี้อาหาร 2 อย่าง (ส้มตำถาดอินเตอร์ซิกเนเจอร์ของร้าน /น้ำตกหมู/ ข้าวเหนียว /น้ำเปล่า) ค่าเสียหายอยู่ที่ 430 บาท ถือว่าราคาสูงอยู่แต่ก็นะแหล่งท่องเที่ยวนี่เนอะ แต่ก็ไม่ผิดหวังนะ รสชาติอาหารใช้ได้เลย ถ้าไปเที่ยวแถวนั้นอีกเราก็แวะกินนะ ก็มันอร่อยอ่ะเนอะ

อาหารอีสาน "ร้านตำหลาย"

เมื่อท้องอิ่มแล้วเราก็มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพเมืองฟ้าอมรกันเถอะ จริงๆเราอยากไปอ่างเก็บน้ำห้วยปรือนะอยากไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกตอนเย็นแต่ติดตรงที่มีภารกิจช่วงเย็นเลยอดไปเลย ขากลับขับรถกลับทางเดิมที่มาเลยจร้า เจอ 2แถวมีเด็กวัยรุ่นทั้งชาย-หญิง ทั้งแว๊นซ์ทั้งสก็อยเต้นเพลงแดนซ์บนรถสองแถวยิ่งตอนรถติดนี่มาเต้นกลางถนนกันเลยจร้า ก็แปลกดีนะกับการเดินทางมาเที่ยวที่ถนนเส้นนี้ มันก็ทำให้เราเกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับคนข้างๆที่เราไปด้วยได้😁😁😁


สรุปทริปแรกของปีเราชอบนะ ถูกใจ ทั้งสถานที่ รูปถ่าย อาหาร และคนข้างๆที่ไปด้วยกัน


... แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าน๊า....
เที่ยวๆ กินๆ แล้วเราก็มาเบิร์นกาน